คลังเก็บป้ายกำกับ: อีเมลมาร์เก็ตติ้ง

SPF, DKIM, DMARC

SPF, DKIM และ DMARC คือเครื่องมืออะไรและมีประโยชน์อะไรบ้าง?

SPF, DKIM และ DMARC คือเครื่องมืออะไรและมีประโยชน์อะไรบ้าง?

SPF, DKIM, DMARC

ภายในไม่กี่วินาทีมีอีเมลเป็นจำนวนมากกว่า 3,500 ฉบับที่ถูกจัดเป็นสแปม หนึ่งในวิธีการการโจรกรรมทางอีเมล ที่เรียกว่าการฟิชชิง ซึ่งเป็นการพยายามหลอกเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลภายในอีเมล โดยการปลอมแปลงเป็นบุคคลอื่น

ในช่วงต้นปี 2561 ซอฟต์แวร์ต่อต้านการได้ ป้องกันความพยายามของผู้ที่ต้องการเข้าชมโซเชียลมีเดียเว็บไซต์ปลอมกว่า 3.7 ล้านครั้ง (กว่า 60% เป็นเว็บไซต์ Facebook ปลอม)  โดยจากข้อมูลชี้ว่าการฟิชชิ่งทางการเงินคิดเป็น 43.9% ของการโจมตีประเภทนี้

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผู้ให้บริการส่งอีเมลจำนวนมากอย่าง Gmail ใช้เครื่องมือเพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้อีเมลจากการโดนโจมตีดังกล่าว โดยToolsเหล่านี้มีกระบวนการป้องกันและยืนยันตัวตนก่อนการส่งอีเมล ซึ่งช่วยให้อีเมลได้รับการปกป้องข้อมูลที่ดีกว่าเดิมและมีโอกาสมากขึ้นที่จะไปถึงปลายทางที่เป็นผู้รับจริงๆ

เครื่องมือ SPF, DKIM และ DMARC คืออะไรและทำงานอย่างไร

SPF record 

The Sender Policy Framework (SPF) เป็นเครื่องมือที่มีความจำเป็นมาก ช่วยปกป้องข้อมูลเพื่อส่งอีเมลอย่างปลอดภัย เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงที่ใช้ในการทำ Email Marketing มากเลยทีเดียว เซิร์ฟเวอร์อีเมลของผู้รับจะตรวจสอบว่าที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์อีเมลของผู้ส่งได้รับอนุญาตให้ส่งข้อความโดยใช้โดเมนที่ผู้ส่งใช้หรือไม่ โดยข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์อีเมลที่ส่งข้อความจากโดเมนเฉพาะสามารถพบได้ในระเบียน DNS ของโดเมนนั้น

DKIM

Domain Keys Identified Mail (DKIM) เป็นตัวที่เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับโดเมนของผู้ส่ง เป็นลายเซ็นดิจิทัลที่เอาไว้ใส่ไว้ที่ Header ซึ่งจะมีการติดกุญแจที่สามารถเปิดได้ด้วยกุญแจที่มีอยู่ในโดเมนเท่านั้น 

 DKIM มีประสิทธิภาพมากในการป้องกันการฟิชชิ่งอีเมล โดยกระบวนการทำงานเมื่อมีการส่งอีเมลจะมีการเข้ารหัสกุญแจที่เป็น private key ไว้ใน Header เมื่อเซิร์ฟเวอร์ของผู้รับได้รับข้อความดังกล่าวระบบจะถาม DNS สำหรับ public key หาก public key ตรงกับ private key ข้อความจะได้รับการยอมรับ

DMARC

The Domain-based Message Authentication, Reporting and Conformance (DMARC) มีวัตถุประสงค์เพื่อยืนยันโดเมนของผู้ส่ง โดยใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ (เช่น SPF หรือ DKIM) และอย่างน้อยหนึ่งในกลไกเหล่านี้จะต้องยืนยันโดเมนใน Header ของผู้ส่งเพื่อให้ DMARC อนุญาตให้อีเมลส่งไปถึงกล่องจดหมายของผู้รับ

ทำไม DMARC ถึงสำคัญ

เครื่องมือ SPF หรือ DKIM ที่ทำหน้าที่แยกออกจากกัน ไม่ได้ให้การป้องกันที่ดีพอต่อสแปม แม้ว่าระบบจะยอมให้ผู้ส่งตรวจสอบความถูกต้องของโดเมน แต่ระบบไม่ได้ระบุสิ่งที่เซิร์ฟเวอร์ของผู้รับควรทำเมื่อมาตรการรักษาความปลอดภัยนี้ไม่เพียงพอ

การตั้งค่าเพิ่ม DMARC จึงเป็นข้อดีที่ช่วยให้คุณสามารถที่จะสั่งให้เซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับอีเมลจากคุณ ใช้นโยบายที่เหมาะสมกับอีเมลที่ไม่ได้รับอนุญาต

การใช้ DMARC คุณจะลดความเสี่ยงที่บุคคลอื่นจะแอบอ้างเป็น บริษัท ของคุณและป้องกันการขโมยข้อมูลที่สำคัญ เช่น รายละเอียดที่จำเป็นสำหรับการเข้าสู่บัญชีธนาคาร

ในฐานะผู้ส่ง DMARC เพิ่มประสิทธิภาพในการส่งอีเมลของคุณ แต่จริงแล้วระบบการส่งก็มีความซับซ้อนอยู่เช่นกัน!

จากการวิจัยที่ดำเนินการโดย Return Path มีเพียง 83% ของอีเมลที่ถูกต้อง (ไม่ใช่จดหมายขยะ)สามารถส่งถึงผู้รับในยุโรป ซึ่งหมายความว่า 1 ใน 6 ข้อความถูกบล็อค เพราะฉะนั้นการตั้งค่า DMARC จะช่วยให้เซิร์ฟเวอร์อีเมลดูแลความปลอดภัยให้อีเมลของคุณมากขึ้น เนื่องจากระบบจะสามารถระบุและยืนยันความน่าเชื่อถือของผู้ส่งอีเมลมาหาเราได้

ทำให้หากมีข้อสงสัยใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานโดเมนปลอม DMARC จะแจ้งเจ้าของเว็บไซต์ได้ ซึ่งหมายความว่าหากมีคนพยายามเลียนแบบคุณ คุณจะมีโอกาสโต้ตอบ เช่น ใช้วิธีการทางกฎหมาย 

DMARC นั้นถูกใช้งานโดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google, AOL, Microsoft และ Yahoo รวมถึงผู้ให้บริการอีเมลรายอื่น และกำลังกลายเป็นระบบที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และจะเป็นมาตรฐานการตลาดต่อไปในอนาคต

 

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 

LINE : @NIPAads 

Inbox m.me/nipa.emailmarketing

Email contact@nipa.co.th 

Call 02-639-7878 ต่อ 301 

6 Tips for Email Marketing Management

6 ทริคการจัดการ Mail marketing อย่างมืออาชีพ

6 ทริคการจัดการ Mail marketing อย่างมืออาชีพ6 Tips for Email Marketing Management

การส่งอีเมล Marketing จะไม่มีความหมายหากจัดการไม่ถูกต้อง หลายองค์กรพบกับปัญหาการส่งอีเมล Marketing แต่ลูกค้าไม่สนใจ ไม่เปิดอ่าน ซึ่งปัญหาที่เกิดนี้นักการตลาดส่วนใหญ่มักมุ่งเป้าไปที่เนื้อหาของคอนเทนต์ภายใน อีเมลแต่เพียงอย่างเดียว จริงที่เนื้อหาเป็นส่วนสำคัญ แต่นอกเหนือจากเนื้อหาแล้ว การจัดการก่อนส่งอีเมล ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน หากเราจัดการสร้าง อีเมล  ได้อย่างถูกต้องจะช่วยให้ประสิทธิภาพของการทำ Mail marketing เป็นไปอย่างแม่นยำและประสบผลสำเร็จ

1.จัดกลุ่มรายชื่อ อีเมล ของลูกค้า

เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และง่ายต่อการส่งอีเมล เราควรจัดแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็นสัดส่วน ดูข้อมูลของลูกค้าว่าเป็นลูกค้าใหม่หรือลูกค้าเก่า ใช้บริการอะไร หรือกำลังสนใจสินค้าประเภทไหน เพื่อให้เป้าหมายในการจัดส่งมีความชัดเจนและมีเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจง ตรงกับความสนใจของลูกค้า

2.ใส่ชื่อของลูกค้าผู้รับอีเมลด้วย

การใส่ชื่อลูกค้าจะทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อย ๆ ของผู้ส่งอีเมล ว่าเนื้อหาเหล่านั้นถูกส่งมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ

3.ภาพประกอบ

ภาพภายใน Mail marketing ที่เราส่งไปยังลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญมากเลยทีเดียว เพราะผลสำรวจกว่า 94% Mail marketing ที่ใส่รูปภาพ จะได้รับความสนใจจากลูกค้ามากกว่า อีเมล ที่มีเพียงแค่เนื้อหา แต่รูปภาพที่ใส่ลงไปก็ควรที่จะตอบโจทย์ผู้รับ และไม่มีข้อความบนภาพเยอะเกินไปแต่สื่อสารได้ชัดเจน

4.สร้าง Call to Action

เพื่อให้ลูกค้ามีรีแอคชั่นตอบกลับ Mail marketing ที่ส่ง เราควรใส่ลิงค์ที่เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของเรา ให้ลูกค้าสามารถรับชมสินค้าและบริการ อ่านข้อมูลของแบรนด์หรือ จะแนบเป็นลิงค์แบบสอบถามต่างๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้แสดงความคิดเห็นต่อแบรนด์ และนำมาปรับใช้ต่อไปในอนาคต

5.รองรับกับแพลตฟอร์มสมาร์ทโฟน

เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า สมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทุกคน ต้องทำให้ผู้รับสามารถเปิดอ่าน อีเมล บนมือถือได้ตลอด เพราะฉะนั้นเราควรที่จะออกแบบการส่งอีเมล Marketing ให้รองรับกับแพลตฟอร์มสมาร์ทโฟนเพื่อการเปิดใช้งานได้ตลอดเวลาโดยไม่มีข้อจำกัด

6.ทดสอบการส่งอีเมล Marketing

เราควรที่จะทดสอบ Mail marketing ด้วยการทดลองส่งอีเมล ไปยังลูกค้า 2 แบบด้วยกัน (A/B Testing) โดยเปลี่ยนเนื้อหาส่วนต่าง ๆ ภายใน อีเมล ให้มีความแตกต่างกัน เพื่อเป็นแนวทางวิเคราะห์การส่งอีเมล ให้มีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต ว่าควรจะสร้างในรูปแบบไหน และลูกค้าสนใจเนื้อหาอะไร

ลองนำ 6 ทริคนี้ไปประกอบการเขียน Mail marketing เพื่อให้อีเมลมีองค์ประกอบที่ชัดเจน ง่ายต่อการทำความเข้าใจเนื้อหาและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสในการสร้างฐานลูกค้าอย่างมั่นคงรวมไปถึงเกิดการซื้อขายสร้างรายได้ให้แก่องค์กร

Email Marketing

เคล็ดลับสร้าง Email Marketing ให้น่าสนใจไม่เกิดการมองข้าม!

เคล็ดลับสร้าง Email Marketing ให้น่าสนใจ ไม่เกิดการมองข้าม!

Email Marketing

การทำการตลาดผ่าน Email เป็นช่องทางที่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม เนื่องจากปัจจุบันการพัฒนาของ Technology ทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการส่งข่าวสารเกิดขึ้นมากมาย และรวดเร็วกว่าอีเมล แต่ถึงอย่างไรการทำ Marketing ที่ดีไม่ได้ชี้วัดกันที่ความสะดวกรวดเร็วเท่านั้นแต่ต้องสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้บริโภคและธุรกิจด้วย ซึ่งจุดนี้ อีเมล มาร์เกตติ้ง เป็นเครื่องที่สามารถตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว

 

อีเมล มาร์เกตติ้ง คือ รูปแบบการตลาดออนไลน์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วย Email โดยเนื้อหาของอีเมล จะมาในรูปแบบของข่าวสาร ข้อมูล การนำเสนอสินค้าและบริการ Promotion ต่างๆ เป็นต้น แต่การจะทำ อีเมล มาร์เกตติ้ง ขึ้นมาสักอัน สิ่งสำคัญเลยคือ เราต้องให้ความสำคัญต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ต้องเข้าใจถึงข้อมูลข่าวสารแบบไหน มาในรูปแบบอย่างไรถึงจะเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค พอเมื่อเปิดอ่านแล้วEmailของคุณจะไม่ถูกมองข้าม กดแสปม หรือโดนย้ายเข้าไปอยู่ในถังขยะ วันนี้เราจะมาดูกันว่ามีเคล็ดลับอะไรบ้าง ที่จะช่วยสร้าง อีเมล มาร์เกตติ้ง  ให้น่าสนใจและไม่ถูกมองข้าม

 

เขียนชื่อหัวข้อ Email ให้มีความดึงดูดน่าสนใจ แต่สร้างสรรค์

หัวข้อ Email จะเป็นสิ่งแรกที่ผู้ใช้งานจะเห็นเมื่อเปิดเข้ามาเช็คอีเมล ซึ่งถ้าชื่อหัวข้อ Email ไม่ได้มีความน่าสนใจหรือไม่ได้มีสิ่งเกี่ยวข้องใดๆกับผู้รับโดยตรง Email ของคุณก็อาจถูกมองข้ามได้

 

ใส่โลโก้ไว้ที่หัวอีเมลด้วย!

Logo เป็นหน้าตาของแบรนด์ที่สร้างความน่าเชื่อถือ ความเชื่อมั่นให้กับ อีเมล มาร์เกตติ้ง ของคุณ เพราะผู้บริโภคส่วนมากสามารถจดจำจากการมองเห็นโลโก้ได้ดีกว่าการสะกดชื่อแบรนด์ เพราะฉะนั้นเพื่อให้ลูกค้าสามารถมองเห็นคุณได้ชัดเจนควรใส่ Logo ไว้ที่หัว Email ด้วย

 

ชื่อผู้ส่งอีเมลเป็นทางการดูมีความน่าเชื่อถือ

ด้วยปัจจุบันเทคโนโลยีถูกใช้ไปในด้านลบ ส่งผลให้ผู้ใช้งาน อีเมล สมัยนี้ กลัวการถูกล้วงข้อมูล ปล่อยไวรัสต่างๆ เพราะฉะนั้นการตั้งชื่อ อีเมล มาร์เกตติ้ง จะต้องดูเป็นทางการและมีความน่าเชื่อถือ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้รับอีเมล ว่าผู้ส่งนั้นมีตัวตนจริงๆ ไม่ใช่ Robot ก็จะทำให้กล้าเปิดเข้ามาอ่าน

 

เนื้อหา Email สั้นกระชับอ่านง่าย ได้ใจความ

ควรที่จะสร้างเนื้อหา Email Marketing ให้อ่านง่าย ไม่ยุ่งยาก จัดวางข้อมูลข่าวสารโปรโมชั่นต่างๆ ให้สั้น กระชับ ได้ใจความ บอกให้ผู้รับเห็นถึงเหตุผลชัดเจนว่าทำไมจะต้องใช้สินค้าบริการของคุณ

 

สร้าง Call to action ภายใน Content Email

เราไม่ได้เพียงต้องการแค่ให้ผู้รับเปิดอ่านเพียงเท่านั้นแต่เราต้องการเปลี่ยนผู้รับให้มาเป็นลูกค้าของเราเพราะฉะนั้น เราจำเป็นที่จะต้องสร้าง ปุ่มกระตุ้น ให้อยู่ในส่วนหนึ่งของ Email เช่น Register ฟรีรับปากกา 4 แท่ง เป็นต้น เป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ให้ผู้รับกลายมาเป็นลูกค้าของเราในอนาคต

 

ใส่ช่องทางการติดต่อกลับ

เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ห้ามลืมโดยเด็ดขาดเพราะถ้าลูกค้าสนใจในสินค้าและบริการของเรา ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม จะได้สามารถติดต่อกลับมายังเราได้ ดังนั้นเราควรที่จะใส่ช่องทางการติดต่อให้ครบถ้วน รวมไปถึงช่องโซเชียลมีเดียต่างๆด้วย

 

ลองนำเกร็ดเล็กๆน้อยๆเหล่านี้มาปรับแก้ใช้กันดูกับ อีเมล มาร์เกตติ้ง ของคุณที่บางทีอาจมองข้ามบางจุดไป เพื่อ Email Marketing ที่มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นเมื่อผู้รับเห็นก็จะไม่เกิดการมองข้ามอีกต่อไป

6 เทคนิคสุดง่าย สร้างอีเมลมาร์เก็ตติ้งให้ประสบความสำเร็จ

แม้จะไม่ใช่วิธีโฆษณารูปแบบใหม่ แต่อีเมลมาร์เก็ตติ้งก็ยังเป็นที่นิยมใช้และถูกกล่าวถึงว่ามีข้อดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ง่าย มีต้นทุนในการผลิตไม่สูงแต่กลับมีประสิทธิภาพมากไม่แพ้วิธีโฆษณาอื่นๆ เลยทีเดียว ทั้งนี้การเพิ่มคุณภาพ รวมถึงเพิ่มโอกาสที่จะประสบสำเร็จจากการใช้อีเมลมาร์เก็ตติ้ง เราสามารถทำได้โดยใช้เทคนิคง่ายๆ จำนวน

6 ข้อ ดังต่อไปนี้

  1. ทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมายให้ดีเสียก่อน

ขั้นตอนแรกสำหรับการส่งอีเมลมาร์เก็ตติ้ง คือการทำความรู้จักกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อสารด้วย การรู้กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เราสื่อสารได้ตรงประเด็น รวมถึงสามารถกำหนดแนวทางและรูปแบบของอีเมลได้เหมาะสมอีกด้วย เช่น ถ้ากลุ่มเป้าหมายของเราเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน การใช้รูปแบบทางการจะได้ผลดีกว่ารูปแบบที่เป็นกันเอง หรือถ้ากลุ่มเป้าหมายอยู่ในธุรกิจศิลปะก็อาจต้องใช้รูปแบบที่แปลกใหม่และสร้างสรรค์มากขึ้น

  1. หัวข้อเรื่องต้องน่าสนใจและมาจากผู้ส่งที่น่าเชื่อถือ

ถ้าอยากให้การส่งอีเมลมาร์เก็ตติ้งประสบความสำเร็จ การตั้งหัวข้อเรื่องและชื่อผู้ส่งเป็นส่วนที่สำคัญมาก เพราะทั้งสองส่วนเป็นสิ่งแรกที่กลุ่มเป้าหมายเห็น จึงถือเป็นตัวตัดสินว่าอีเมลของเราจะถูกเปิดอ่านหรือไม่ หากหัวข้อเรื่องมีความน่าสนใจ มีจุดเด่น และชื่อผู้ส่งมีความน่าเชื่อถือ โอกาสการเปิดอ่านย่อมมีมากขึ้น การใช้คำและตัวสะกดที่ถูกต้องก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มโอกาสการเปิดอ่านและทำให้อีเมลของเรามีลักษณะไม่เหมือนกับอีเมลสแปมอีกด้วย

  1. เขียนเนื้อหาอีเมลให้มีคุณค่าและโดดเด่น

เนื้อหาต้องตรงประเด็นและมีความชัดเจน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจสิ่งที่เราต้องการสื่อสารจริงๆ แทนที่จะเลือกใช้เนื้อหาแบบที่เน้นการขายเพียงอย่างเดียว เราอาจเลือกใช้ Content Marketing เพื่อทำให้เนื้อหาของเรามีความหลากหลาย น่าอ่าน และที่สำคัญไม่เป็นการยัดเยียดจนเกินไป นอกจากนี้การผลิตเนื้อหาให้มีความโดดเด่นและแปลกใหม่จะช่วยดึงความสนใจกลุ่มเป้าหมายให้อ่านอีเมลจนจบ ซึ่งทั้งหมดนี้ยังส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายมีทัศนคติที่ดีกับเราด้วย

  1. อย่าลืมข้อความเร่งปิดการขายหรือ Call to Action

ข้อความ Call to Action ช่วยสร้างแรงดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายอยากมีส่วนร่วมกับเราได้ดี ด้วยการใช้

ข้อความที่ตรงประเด็นและโน้มน้าวใจให้เกิดความต้องการหรือทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าไม่ควรพลาดโอกาสนี้โดยเด็ดขาด ตัวอย่างข้อความ Call to Action เช่น คลิกตอนนี้ทดลองใช้งานฟรี ซื้อตอนนี้ลดทันที หรือใช้การกำหนดเวลามาเป็นตัวเร่งให้กลุ่มเป้าหมายรีบตัดสินใจ เช่น ลดสูงสุดถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้น เป็นต้น

  1. เพิ่มช่องทางเชื่อมต่อไปที่ Social Network

เป็นวิธีที่พลาดไม่ได้โดยเด็ดขาดสำหรับการทำอีเมลมาร์เก็ตติ้ง เพราะเป็นการติดต่อสื่อสารด้วยช่องทางส่วนตัว การใช้ Social Network จึงเป็นช่องทางที่ช่วยสร้างโอกาสเติบโตให้กับธุรกิจ ด้วยการเชื่อมต่อจากอีเมลของเราไปยัง Social Network ส่งผลให้อีเมลเผยแพร่ออกไปได้กว้างขึ้น กล่าวคือเราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ปกติเราไม่อาจเข้าถึงได้ และยังเพิ่มความหลากหลายของกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย

  1. สร้างสรรค์รูปแบบที่เหมาะกับสมาร์ทโฟน

ในปัจจุบันผู้คนติดต่อสื่อสารออนไลน์กันผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟนเป็นจำนวนมาก การใช้อีเมล

มาร์เก็ตติ้งจึงจำเป็นต้องปรับรูปแบบ เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วย การแสดงผลของอีเมลบนสมาร์ทโฟนเป็นส่วนสำคัญที่เราต้องคำนึงถึง โดยรูปแบบที่ควรใช้ คือการแสดงเนื้อหาแบบคอลัมน์เดียว และใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ทั้งในส่วนของเนื้อหาและหัวชื่อเรื่อง